4 สิ่งที่คนเป็นผื่นแพ้ผิวหนังควรหลีกเลี่ยง

อาการผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ (Eczema) เกิดจากหลาย สาเหตุและปัจจัยกระตุ้น ที่แตกต่างกันออกไป การสังเกตตัวเองง่ายๆ เกี่ยวกับอาหารที่รับประทาน สภาพอากาศ เสื้อผ้า เครื่องนอนและผ้าห่ม สกินแคร์ที่ใช้ อาจช่วยให้การหลีกเลี่ยงกลุ่มเสี่ยงที่อาจทำให้อาการกำเริบทำได้ง่ายขึ้น ณ ระดับหนึ่ง
จากการค้นคว้า ขอแนะนำ 4 สิ่งที่คนมีปัญหาผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบพึงหลีกเลี่ยงคือ
1) อาหารแปรรูปต่างๆ (Processed Food)
อาหารเป็นปัจจัยสำคัญโดยรวมต่อสุขภาพกายครอบคลุมไปถึงสุขภาพผิวพรรณ อาหารแปรรูปประกอบด้วยสารกันบูดนานาชนิด สารแต่งกลิ่น สี รส ไขมันไม่อิ่มตัว (trans fat) น้ำตาล ซึ่งล้วนแล้วเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ (inflammatory) หรือแสดงอาการกำเริบทางผื่นแพ้ผิวหนัง (Eczema flare-ups) ทั้งสิ้น
ชีวิตประจำวันของคนไทยเราฝากท้องไว้นอกบ้านเป็นหลัก การควบคุมอาหารแปรรูปจึงทำได้ยากมาก อาการผื่นแพ้ทางผิวหนังโดยการใช้ยาจึงช่วยระงับอาการเพียงชั่วคราว เพราะตราบได้ที่อาหารที่เรารับประทานเข้าไปในร่างกายทุกวัน เต็มไปด้วยสารกลุ่มเสี่ยงคอยกระตุ้นอาการอยู่อย่างนี้ อาการทางผิวหนังจะตึกลับไปมาอยู่อย่างนี้เช่นกัน
ตัวอย่างอาหารแปรรูป
กลุ่มเครื่องปรุง ได้แก่ น้ำปลา น้ำมันหอยนางรม เต้าเจี้ยว ซอสถั่วเหลือง และสาระพัดซอสต่างๆ
กลุ่มอาหารเนื้อแปรรูป ได้แก่ ไส้กรอกฝรั่ง ไส้กรอกไทยอีสาน ลูกชื้น แฮม เบคอน กุนเชียง หมูยอ
กลุ่มอาหารกระป๋อง ได้แก่ ปลากระป๋อง ผักกาดกระป๋อง หน่อไม้กระป๋อง และของดองต่างๆ
กลุ่มอาหารแปรรูปจากนม ได้แก่ ชีส เนย โยเกิร์ต โดยเฉพาะเนยเทียม (margarine) * มีจำนวนของ ไขมันไม่อิ่มตัวอยู่สูงมาก และลดสมรรถภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ควรเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง
คุณอาจนึกถามในใจว่า เอ๊ะ...แล้วนี่ฉันจะกินอะไร??? แนะนำให้ใช้วิธี "ลด ละ เลิก" เริ่มจากการลดปริมาณ อะไรหลีกเลี่ยงได้ หรือ ชดเชยด้วยตัวเลือกอื่นได้ เช่น หันมาบริโภคอาหารคลีน (Clean Diet) ที่ผ่านการปรุงแต่งน้อยที่สุด บริโภคเนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการถนอมอาหาร หรือขั้นตอนใดในโรงงานอุตสาหกรรม ปรุงอาหารโดยใช่เกลือแทนน้ำปลาและซอสต่างๆ ไม่ยึดติดในรสชาติของอาหาร รับประทานผักสดและผลไม้เป็นประจำ อาจเริ่มจากการจัดหนึ่งวันในสัปดาห์เป็นวัน Detox ทำอาหารรับประทานเองที่บ้านและเพิ่มขยายเมื่อทำได้ดีขึ้น
2) เสื้อผ้าสวมใส่ที่ทำจากใยสังเคราะห์ (Synthetic Textile)
เสื้อผ้าที่ขายกันอยู่ทั่วไปในปัจจุบันล้วนทำจากใยสังเคราะห์เสียส่วนใหญ่ เนื่องจากมีราคาถูก ปรับให้มีการยืดหยุ่นและเพิ่มผิวสัมผัสนุ่มนวลในขณะสวมใส่ ตัวอย่างใยสังเคราะห์ได้แก่ polyester, acrylic, nylon, rayon, and spandex ซึ่งใยสังเคราะห์พวกนี้ไม่สามารถระบายอากาศได้ดีเท่าเสื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ฝ้าย ลินิน ไหม และที่สำคัญ "เหงื่อ" เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของอาการผื่นแพ้ผิวหนังในประเทศเขตเมืองร้อน ที่อาจลุกลามจากผื่นแพ้กลายเป็นผิวอักเสบต่อไป เมื่อผิวหนังหมักหมม ติดเชื้อแบคทีเรีย คัน เกา จนติดเชื้อได้
3) ผง(น้ำยา)ซักฟอก และ น้ำยาปรับผ้านุ่ม
สองอย่างที่คนส่วนใหญ่มองข้ามความสำคัญ และอาจคิดไม่ถึงว่า รวมอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ทำให้อาการผื่นแพ้ผิวหนังกำเริบได้ เพราะสารเคมีที่อยู่ทั้งในผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มตกค้างอยู่ในเสื้อผ้าที่สวมใส่ สัมผัสร่างกายเราตลอดเวลา สารเคมีตัวดังกล่าวอยู่ในกลุ่ม Alkaline เช่น Potassium hydroxide นอกจากนี้น้ำหอมและสีที่ผสมอยู่ทั้งในผง(น้ำยา)ซักฟอก และน้ำยาปรับผ้านุ่ม ยังเป็นอีกตัวกระตุ้นที่ก่อให้เกิดอาการกำเริงของผื่นแพ้ผิวหนังอีกด้วย
เว็บไซต์แนะนำการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ในประเทศออสเตรเลีย www.choice.com.au ได้แนะนำการเลือกซื้อผงซักฟอกสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือปัญหาผื่นแพ้ผิวหนังไว้ว่า ควรหลีกเลี่ยงผงซักฟอกที่มีส่วนผสมของ Enzymes หรือสารเร่งการกระจัดคราบสกปรก และ ผงซักฟอกมีสารฟอกขาวเรืองแสง (Optical brighteners)
เรามักเข้าใจผิดคิดว่า ปริมาณผงซักฟอกที่ใส่จะยิ่งทำให้เสื้อผ้าที่ซักนั้นสะอาดมากขึ้น แท้จริงแล้วการล้างน้ำภายหลังการซักนั้นสำคัญยิ่งกว่าและควรให้ความสำคัญ ปกติเครื่องซักผ้าโดยทั่วไป หากตั้งรอบระบบอัตโนมัติเอาไว้ จะทำการล้างชำระเพียงครั้งเดียว สำหรับผู้มีปัญหาผื่นแพ้ผิวหนังควรเพิ่มรอบในฟังก์ชั่น Rinse เพิ่มเติม (ศึกษาระบบและการตั้งค่าของเครื่องผ้าที่ใช้)
ลองมองหาทางเลือกในการซักผ้าด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น ใช้สบู ใช้น้ำส้มสายชู หรือ Baking Soda หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม เปลี่ยนมาใช้ Tea Tree Oil 2-3 หยดแทน นอกจากนี้การสำรวจและทำความสะอาดภายในเครื่องซักผ้าบริเวณขอบยางเป็นประจำ ที่มักพบคราบเชื้อราดำที่เกิดจากความอับชื้นหลังใช้และปิดประตูทิ้งไว้ก็ช่วยได้มากเช่นกัน
4) ความเครียดและความกังวล (Stress and Anxiety)
ความเครียดและกังวลเป็นบ่อเกิดต่อโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวงรวมทั้งอาการทางผิวหนังของเราด้วย เนื่องจากความเครียดจะมีผลกระทบต่อการทำงานในการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยตรง ในขณะที่เรามีความกังวลในเรื่องงาน การเงิน หรือครอบครัว ร่างกายของเราจะผลิตฮอร์โมนที่ชื่อว่า Cortisol ตามธรรมชาติ เมื่อเครียดมาก ปริมาณฮอร์โมนตัวนี้จะถูกขึ้นมากตามไปด้วย Cortisol ไม่ได้เป็นสาเหตุของผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ แต่ Cortisol จะทำให้อาการที่เป็นอยู่แล้วนั้นแย่ลง การทำงานส่วนอื่นๆ ของร่างกายก็ถูกกระทบกระเทือนไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ไม่ว่าอาการผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบของคุณหรือของลูกๆ ที่คุณรักจะเกิดจากสาเหตุที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น จากระบบภูมิคุ้มกัน ทางพันธุกรรม หรือไม่ทราบสาเหตุก็ตาม แต่การดูแลควบคุมอาการเป็นสิ่งที่เราสามารถเลือกได้ การเปลี่ยนนิสัยการกิน ดูแลใส่ใจให้ความสำคัญกับข้าวของเครื่องใช้ หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีที่ไม่จำเป็น การทำจิตใจให้รื่นรมย์สดใส ใช่ชีวิตผ่อนคลาย ก็จะช่วยให้อาการผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบนี้ดีขึ้นได้ และครอบคลุมไปถึงสุขภาพของเราโดยรวม
แหล่งที่มาข้อมูล:
https://www.dermnetnz.org/topics/textile-contact-dermatitis/
https://www.choice.com.au
https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/eczema/ss/slideshow-top-eczema-triggers
แท็ก: